สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในประเทศ ออสเตรเลีย กลับมาตึงเครียดอีกครั้งหลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว 110 ราย ขณะที่ทางการเร่งออกมาตรการคุมโรค เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการออสเตรเลียตรวจพบการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า หรือ สายพันธุ์อินเดีย ในนครซิดนีย์และมีผู้ติดเชื้อแล้ว 110 ราย นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบการแพร่ระบาดอื่นๆเช่นในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่มีการแพร่ระบาดของโรคขึ้นในหลายพื้นที่พร้อมๆกัน
โดย ทางการออสเตรเลียได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว ABC ระบุว่า
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับประเทศ และ ขณะนี้ประเทศออสเตรเลียกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดเฟสใหม่ที่มีโควิดเดลต้าที่แพร่เชื้อง่ายกว่าโควิดทั่วไป ขณะนี้ทางการเร่งออกมาตรการควบคุมในหลายพื้น โดยนครซิดนีย์ ที่มีประชาชนห้ามออกนอกเคหสถานและสั่งให้ร้านค้าปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว
ซึ่งนาง กลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาธ์เวลส์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดังกล่าวว่า ทางการคาดเดาว่ายอดผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นจากวันนี้ เนื่องจากโควิดเดลต้าสามารถแพร่เชื่อได้อย่างรวดเร็ว
ประเทศออสเตรเลียมีผู้ป่วยโรคโควิดสะสมมากกว่า 30,500 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 900 ศพ
โดยการตัดสินใจแบ่งปันวัคซีนเกิดขึ้น หลังจากที่หลายประเทศและไต้หวันได้ออกมาขอความช่วยเหลือกับประเทศญี่ปุ่น หลังประสบปัญหาในการแจกแจงวัคซีน
ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นได้จับวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นจำนวนที่เพียงต่อประชาชนชาวญี่ปุ่นกว่า 60 ล้านคนแล้ว อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนชนิดดังกล่าวยังไม่ได้เริ่มทันที เนื่องจากมีรายงานที่ระบุว่ามีประชาชนแสดงอาการลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีนชนิดนี้
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งตามหาผู้สูญหายจำนวน 99 ราย หลังจากที่เกิดเหตุ ตึกถล่มไมอามี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 1 ศพ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งตามหาผู้สูญหาย 99 ราย หลังจากที่เกิดเหตุตึกสูง 12 ชั้นถล่มในทางตอนเหนือของนครไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ
อย่างไรก็ตามนายกเทศมนตรีระบุว่าขณะนี้สามารถพบตัวผู้ประสบภัยแล้ว 120 คน โดยนายกเทศมนตรีระบุว่าจำนวนตัวเลขดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นใจและให้ความหวังกับประชาชนทุกคน
ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุแน่ชัดของเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยวิศวกรและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้าตรวจสอบซากอาคารนี้เพื่อหาถึงสาเหตุต่อไป โดยอาคารดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 2523 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอายุของอาคารเป็นสาเหตุที่ตึกถล่มหรือไม่
ด้านสำนักข่าว CNN ได้ไปสัมภาษณ์ นาย ชิมอน วิโดวินสกี ศาสตรจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนานาชาติฟลอริดา ซึ่งนาย วิโดสกี ระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่าอาคารแห่งนี้ทรุดลงทุกๆ 2 มิลลิเมตร ตั้งแต่ช่วงปี 2536 ถึง 2542 ซึ่งศาสตรจารย์คนดังกล่าวระบุว่า อาคารทรุดอาจจะไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่เป็นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาคารพังถล่มลงมา
EU คาด เดือนสิงหา โควิดเดลต้า จะกลายเป็นโควิดเชื้อสายหลัก
กรมควบคุมโรคของ EU ออกมาคาดการณ์ว่า โควิดเดลต้า จะกลายเป็นโควิดเชื้อสายหลักในช่วงเดือนสิงหาคม วอน รบ. เร่งฉีดวัคซีนให้ครบโดส เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคยุโรป หรือ ECDC ได้ออกมาคาดเดาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
โดยทาง ECDC คาดเดาว่าในช่วงสิงหาคมนี้ โควิดสายพันธุ์เดลต้า หรือ โควิดสายพันธุ์อินเดีย จะเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาด ซึ่ง ECDC เชื่อว่าผู้ป่วยใหม่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวกว่าร้อยละ 90 จะป่วยเป็นโรคโควิดชนิดนี้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคยุโรป ระบุว่าโควิดเดลต้าสามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าโควิดสายพันธุ์อัลฟ่าที่ถูกค้นพบขึ้นในประเทศอังกฤษกว่าร้อยละ 40-60 และเนื่องจากการแพร่ระบาดได้ง่ายทำให้ ทาง ECDC มองว่าโควิดเดลต้าจะกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลัก
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของ ECDC กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าโควิดอินเดียจะแพร่กระจายเป็นอย่างมากในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิดครบโดส และผู้ที่ได้รับเชื้ออาจจะป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้
โดยทางเจ้าหน้าที่ระบุอีกว่า ในตอนนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทางการจะเร่งฉีดวัคซีนโควิด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดเชื้อสายนี้ต่อไป ก่อนหน้านี้ทางผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์และแอสตราเซเนกาได้ทำการทดลองวัคซีนกับโควิดสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งทั้งสองบริษัทยืนยันว่าวัคซีนพวกเขามีประสิทธิกับโควิดสายพันธุ์อินเดีย
การเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งหลังจากที่การ ประมูล บลูอายส์ ไวท์ดรากอน พุ่งสูงถึง 400 ล้านบาท จนทำให้ศาลจีนต้องเข้ามาระงับการประมูล
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน สำนักข่าว โกลบอลไทมส์ รายงานว่าศาลในมณฑลอันฮุย ประเทศจีนได้สั่งระงับการประมูลการ์ด “บลูอายส์ ไวท์ดรากอน” (Blue Eyes White Dragon) การ์ดชื่อดังของการ์ดเกม “ยูกิโอ” หลังจากที่การ์ดราคาประมูลพุ่งสูงถึง 400 กว่าล้านบาท
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง